วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2557

สนใจสั่งซื้อและเป็นตามแทนจำหน่ายที่









สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายได้ที่  

คุณวรกัญณัฎฐ์   อัครเรืองวงศ์

ดูข้อมูลที่   http://lifvelnut.blogspot.com

ปริมาณและราคา 1 ขวดบรรจุ 30 เม็ด ราคา 1,900 บาท



                       ID  Line :  kunnut599


โทร 064-549-3661, 095-163-9336


               อีเมล์  : kunnut59@gmail.com




วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2557

โรคแทรกซ้อนจากเบาหวาน



โรคแทรกซ้อนจากเบาหวาน



      ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานมานานหลายปีมักพบโรคแทรกซ้อนจากเบาหวานเช่นปัญหาด้านสายตาไตวายโรคหัวใจอัมพาตขาชาแผลเน่าโดยเฉพาะบริเวณเท้า





     ความรุนแรงของโรคแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละรายขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เป็นเบาหวาน




       และระดับน้ำตาลในเลือดการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ใกล้เคียงระดับปกติมากเท่าไรช่วยชะลอและลดความแรงของโรคแทรกซ้อนเรื้อรังลงได้มากเท่านั้น



     และที่สำคัญคือโรคแทรกซ้อนเรื้อรังดังกล่าวอาจกลับคืนสู่สภาพปกติได้ถ้าผู้ป่วยได้รับการตรวจพบความเปลี่ยนแปลง

     ที่เริ่มเกิดขึ้นและได้รับการกษาแต่เริ่มแรกทำไมจึงเกิดโรคแทรกซ้อนจากเบาหวานระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงเป็นระยะเวลานานจะเป็นพิษต่อร่างกาย

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อระบบหลอดเลือดซึ่งเป็นเสมือนท่อส่งน้ำเลี้ยงของร่างกายผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมไม่ดีจะมีความ


          ผิดปกติของระดับไขมันในเลือดด้วยโดยจะมีไขมันในเลือดสูงกว่าปกติและมีความดันเลือดสูงกว่าปกติทั้งระดับน้ำตาลที่สูงไขมันในเลือดที่สูง

    และความดันโลหิตที่สูงจะมีผลต่อผนังหลอดเลือดเกิดการเสื่อมสภาพมีการอักเสบและมีการสะสมของไขมันที่ผนังหลอดเลือดทำให้ตีบแคบลงหรืออาจตันไปในที่สุด

    



  เลือดผ่านไปยังอวัยวะต่างๆไม่ได้เกิดภาวะขาดเลือดขาดสารอาหารขาดออกซิเจนทำให้อวัยวะนั้นๆเสียหาย

  เช่นถ้าเกิดกับหลอดเลือดหัวใจเกิดเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบกล้ามเนื้อหัวใจตายถ้าเกิดกับเส้นเลือดสมองก็จะเกิดอาหารอัมพาต

ถ้าเกิดกับเส้นประสาททำให้เส้นประสาทเสื่อมโดยเฉพาะที่บริเวณเท้าถ้าเกิดกับจอประสาทตาทำให้จอประสาทตาเสื่อมมีเลือดออกจอประสาทตาหลุดลอกทำให้ตาบอด

ถ้าเกิดกับเส้นเลือดที่ไต




        ทำให้ไตขาดเลือดไตเสื่อมเป็นโรคไตวายในที่สุดโรคแทรกซ้อนจากเบาหวานที่พบได้บ่อย






     ไตเสื่อมไตวายจากเบาหวานไตเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่กรองสารต่างๆที่อยู่ในกระแสเลือดมีเส้นเลือดขนาดเล็กมากมายบริเวณไต

    เมื่อผนังเส้นเลือดถูกทำลายโดยน้ำตาลในเลือดที่สูงอยู่เป็นเวลานานการทำหน้าที่ในการกรองของไตจะเริ่มเสื่อมลงทำให้โปรตีนรั่วออกมาในปัสสาวะผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานมานานกว่า10ปี 


     มักเกิดปัญหาไตเสื่อมแต่ความรุนแรงและระยะการเกิดจะมากหรือน้อยขึ้นกับการควบคุมน้ำตาลในเลือด

    และที่สำคัญที่สุดคือการตรวจหาปริมาณโปรตีนในปัสสาวะตั้งแต่เริ่มแรกที่ยังไม่มีอาการด้วยวิธีตรวจหาปริมาณไข่ขาวในปัสสาวะที่เก็บภายใน 24ชั่วโมง

    ซึ่งเมื่อตรวจพบได้ในระยะเริ่มต้นนี้จะมีการดูแลรักษาเพื่อช่วยชะลอความเสื่อมของไตได้มากสามารถยืดระยะเวลาการดำเนินของโรคเข้าสู่ภาวะไตวายเรื้อรังได้อีกหลายปีสำหรับ ผู้ป่วยที่มีปริมาณไข่ขาวออกมา



    ในปัสสาวะปริมาณมาก จนสามารถตรวจพบได้โดยใช้แถบตรวจ แสดงว่าไตเสื่อมมากแล้ว

    ระยะนี้การควบคุมน้ำตาลในเลือดไม่สามารถชะลอความเสื่อมของไตลงได้

    แต่การรับประทานอาหารโปรตีนต่ำและการได้รับยาลดปริมาณไข่ขาวที่รั่วออกมาในปัสสาวะช่วยทำให้ไตไม่ต้องทำหน้าที่หนักเกินไป



         เมื่ออาการเข้าสู่ภาวะไตวายระยะสุดท้ายผู้ป่วยจะมีอาการบวม ความดันเลือดสูงมากคลื่นไส้อาเจียนซีดอ่อนเพลีย

        อาหารโปรตีนต่ำจะช่วยลดอาการไม่สบายจากของเสียคั่งค้างในกระแสเลือดได้ในระยะนี้แพทย์อาจพิจารณาให้ได้รับการบำบัดรักษา


          ด้วยวิธีฟอกเลือกล้างไตทางช่องท้องหรือเปลี่ยนไตทั้งนี้ขึ้นกับสภาพของผู้ป่วยแต่ละรายเมื่อเริ่มมีภาวะไตเสื่อมการปฏิบัติตัวที่ถูกวิธี



สามารถลดความรุนแรงและชะลอความเสื่อมของไตได้ดังนี้

     1.ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ใกล้เคียงระดับปกติมากที่สุด

    2.เริ่มรับประทานอาหารที่มีโปรตีนน้อยลงและเลือกรับประทานโปรตีนคุณภาพสูงซึ่งได้แก่ไข่เนื้อที่ไม่ติดหนังลงและเลือกรับประทานโปรตีนคุณภาพสูง

   ซึ่งได้แก่ไข่เนื้อที่ไม่ติดหนังหลีกเลี่ยงส่วนของเอ็นพังผืดเครื่องในสัตว์เพราะเนื้อสัตว์เหล่านี้จะเพิ่มภาระหนักให้กับไตที่ต้องขับของเสียออกควรรับประทานเนื้อสัตว์ประเภทเนื้อปลา เนื้อไก่


     3.ลดอาหารที่มีรสเค็มและอาหารที่มีผงชูรสสารกันบูดต่างๆเพราะมีส่วนผสมของเกลือโซเดียมที่ทำให้ความดันเลือดสูงและเกิดอาการบวม



   4.ควบคุมความดันเลือดอย่างเคร่งครัดไม่ให้เกิน  130/80  มม.ปรอท


    จอประสาทตาเสื่อมและต้อกระจกจากเบาหวานบริเวณจอตาเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดฝอยมาเลี้ยงมาก

    เมื่อเส้นเลือดฝอยถูกทำลายทำให้ผนังเส้นเลือดฝอยโป่งพองจนแตกมีเลือดไหลออกมาในบริเวณวุ้นตาเมื่อรอยรั่วหายดีแล้วเกิดแผลเป็น

         ซึ่งจะขัดขวางการไหลของเลือดภายในตาจึงเกิดการงอกใหม่ของเส้นเลือดฝอย

        เพื่อช่วยในการไหลเวียนของเลือดแต่เส้นเลือดฝอยที่งอกใหม่จะเปราะบางแตกง่ายทำให้มีเลือดออกมาอยู่ในวุ้นตาและจอตา

        ระยะนี้จะพบว่าผู้ป่วยมีอาการตามัวเมื่อแผลเป็นเกิดมากขึ้นจะสร้างเส้นใยเป็นร่างแหในลูกตา

           เมื่อรอยแผลเป็นหดรัดตัวเกิดการดึงรังและฉีกขาดของเนื้อเยื่อบริเวณส่วนหลังของลูกตาจะมีอาการเหมือนมีม่านดำขึงผ่านขวางตา


       หรือเหมือนมีแสงสีดำพาดผ่านตาซึ่งเมื่อมีอาการเช่นนี้ให้พบจักษุแพทย์ทันทีเพราะอาจทำให้ตาบอดได้การตรวจพบความผิดปกติของผนังเส้นเลือดในตาตั้งแต่ระยะเริ่มแรกที่ยังไม่มีอาการตามัว




     โดยการพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจตาจะช่วยป้องกันการสูญเสียการมองเห็นได้

     เมื่อตรวจพบความผิดปกติของหลอดเลือดฝอยในลูกตาการรักษาด้วยเลเซอร์ให้ผลดี

    โดยจะช่วยป้องกันหรือชะลอการสร้างเส้นเลือดฝอยใหม่ 

    และสามารถทำลายเส้นเลือดฝอยที่สร้างใหม่แต่เปราะนั้นได้ด้วยมีสาเหตุจากการสะสมรวมตัวกันของน้ำตาลบริเวณเลนส์ตาทำให้เลนส์ตาบวมและมัวลง

    ไม่เกี่ยวกับการไหลเวียนของเลือดภายในลูกตาซึ่งสามารถป้องกันได้โดยการควบคุมน้ำตาลในเลือด

    และรักษาโดยการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ปลายประสาทเสื่อมจากเบาหวานเป็นโรคแทรกซ้อนที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยเบาหวาน

     โดยไม่ทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตแต่ทำให้รู้สึกรำคาญและทุกข์ทรมาน

     เกิดจากเส้นเลือดฝอยที่มาเลี้ยงเส้นประสาทถูกทำลายไม่สามารถส่งออกซิเจนมาตามกระแสเลือดเพื่อไปเลี้ยงเส้นประสาทได้

     รวมถึงการมีน้ำตาลสะสมรวมตัวกันอยู่บริเวณเส้นประสาทเองด้วย

      จึงทำให้การทำงานของเส้นประสาทเสื่อมลง การรับรู้ความรู้สึกต่างๆลดลงโดยเฉพาะบริเวณปลายมือปลายเท้าจะเกิดอาการชา




     เมื่อกระทบถูกความร้อนหรือเจ็บปวดจะไม่ค่อยรู้สึกจึงเป็นอันตรายกับผู้ป่วยเบาหวานเพราะอาจทำให้เกิดแผลได้ง่ายโดยไม่รู้สึกตัวเมื่อเป็นมากอาจทำให้กล้ามเนื้อลีบเล็กลงทำกิจวัตรประจำวันได้น้อยลง

     นอกจากนั้นยังส่งผลต่อเส้นระสาทที่มาเลี้ยงบริเวณระบบทางเดินอาหารด้วยจึงทำให้เกิดอาการท้องผูกโดยไม่ทราบสาเหตุ

     สำหรับผู้ชายที่เป็นเบาหวานมานามมักพบปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศร่วมด้วยการรักษาอาการปลายประสาทเสื่อมจากเบาหวาน

     ทำได้เพียงบำบัดตามอาการเท่านั้นไม่สามารถรักษาให้คืนกลับสู่สภาพเดิมได้แต่การควบคุมน้ำตาลในเลือดจะช่วยลดความรุนแรงได้


โรคหลอดเลือดหัวใจนับ เป็นโรคแทรกซ้อนที่คุกคามต่อชีวิตได้ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บแน่นหน้าอกจากเส้นเลือดหัวใจตีบ  กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดจนกระทั่งกล้ามเนื้อหัวใจตายในที่สุด



       ปัจจัยส่งเสริมให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้แก่ควบคุมเบาหวานไม่ดีความดันเลือดสูงไขมันในเลือดสูงไม่ออกกำลังกายอ้วนสูบบุหรี่ประวัติโรคหัวใจในครอบครัวและเป็นผู้ที่เครียดเป็นประจำ

       ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงปัจจัยดังกล่าวข้างต้นและตรวจร่างกายเป็นประจำจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจลงได้มาก



       โรคหลอดเลือดสมองตีบตันเป็นโรคแทรกซ้อนที่เกิดจากหลอดเลือดที่มาเลี้ยงบริเวณสมองตีบตัน  

       ทำให้เกิดการพิการหรืออาการรุนแรงถึงเสียชีวิตได้โอกาสเกิดหลอดเลือดสมองตีบตันจะสูงมากขึ้น

       ในผู้ป่วยเบาหวานที่มีความดันเลือดสูงร่วมด้วยทำให้อวัยวะที่สมองส่วนนั้นควบคุมอยู่อ่อนแรงลงไป



        เกิดอัมพฤกษ์หรืออัมพาตซึ่งเมื่อได้รับการรักษาด้วยยาละลายลิ่มเลือดผ่านพ้นภาวะอันตรายแล้วการทำกายภาพบำบัดจะช่วยฟื้นฟูสภาพการทำงานของขาที่อ่อนแรงนั้นได้ดียิ่งขึ้น



แนวทางการป้องกันการเกิดโรคแทรกซ้อนจากเบาหวาน

       1. ควบคุมน้ำตาลในเลือดไม่ให้เกิน  140 มก./ดล.



   2. ควบคุมความดันเลือดไม่ให้เกิน 130/80 มม.ปรอท



   3. ควบคุมน้ำหนักตัวอย่าให้อ้วน



   4. ควบคุมระดับไขมันในเลือด

    • คอเลสเตอรอล    ต่ำกว่า 200  มก./ดล.

   •ไตรกลีเซอไรด์ต่ำกว่า 150  มก./ดล.
   • เอชดีแอล      สูงกว่า  40   มก./ดล.



    5. งดสูบบุหรี่



    6. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

    7. ดูแลรักษาเท้าโดยป้องกันไม่ให้เกิดแผลและหมั่นตรวจเท้าสม่ำเสมอ


    8. ตรวจตาและตรวจหาปริมาณไข่ขาวในปัสสาวละปีละ1 ครั้งแม้ยังไม่มีอาการโรคแทรกซ้อนจากเบาหวาน

      ก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจส่งผลต่อการทำงานและการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันสูญเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น 

      และบางครั้งโรคแทรกซ้อนนั้นอาจอันตรายถึงแก่ชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

      การมีความรู้ในการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันและลดความรุนแรงของโรคดังกล่าวช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานมีสุขภาพที่ดี

      ลดค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียไปกับการรักษาโรคแทรกซ้อนและเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี




ข้อแนะนำในการป้องกันโรคแทรกซ้อนจากเบาหวาน



    - ควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ใกล้เคียงคนปกติมากที่สุด

    โดยการเลือกบริโภคอาหารที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

    ในกรณีที่ต้องการรสหวานสามารถใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลเช่นแอสปาร์แทมทดแทนน้ำตาลได้ 



   - พบแพทย์ตรงตามนัด เพื่อรับการตรวจสุขภาพและคำแนะนำในการดูแลตนเองที่ถูกต้องเหมาะสม

   - ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน




    - ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

    - งดสูบบุหรี่

    - ดูแลรักษาและตรวจเท้าของตนเองทุกวันถ้ามีแผลหรือมีความผิดปกติเช่นการชาไม่รับรู้ความรู้สึกควรพบแพทย์ทันที



      แม้ไม่มีความผิดปกติทางตาก็ควรตรวจตาเป็นประจำทุกปีโรคเบาหวานไม่หายขาดแต่สามารถควบคุมให้ผู้ป่วยมีชีวิตอย่างปกติสุขได้

     การควบคุมเบาหวานให้ได้ผลต้องทำอย่าง?

ต่อเนื่องสม่ำเสมอในการรักษาผู้ป่วยเบาหวานมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ป่วยดำรงชีวิตในสังคมอย่างมีความสุขโดยปราศจากโรคแทรกซ้อนทั้งเฉียบพลันและเรื้อรัง

      จากการศึกษาในต่างประเทศมีข้อมูลสนับสนุนว่าการควบคุมระดับน้ำตาลให้ใกล้เคียงกับคนปกติมากที่สุดมีผลในการป้องกันและชะลอการเกิดโรคแทรกซ้อนจากเบาหวานได้


Livitanutrics มีอาหารเสริมผู้ป่วยเบาหวาน

   คือ LIFVEL มีสารสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติลดสาเหตุโรคเบาหวานเพราะมีฤทธิ์ในการลดระดับน้ำตาลในเลือด และโครเมียมพิโคลิเนตที่มีช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานในปริมาณสูง




ผลิตภัณฑ์ LIFVEL ลิฟเวลสามารถแก้ปัญหา โรคเบาหวานอย่างได้ผล

ปริมาณและราคา 1 ขวดบรรจุ 30 เม็ด ราคา 1,900 บาท


ดูข้อมูลที่   http://lifvelnut.blogspot.com


สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายที่

คุณ วรกัญณัฎฐ์  อัครเรืองวงศ์



โทร. 064-549-3661, 095-163-9336

                        ID Line : kunnut599 

อีเมล์ : kunnut59@gmail.com